การเติบโตของธุรกิจนำไปสู่ผลประกอบการที่มั่นคง

รายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 EBITDA เพิ่มขึ้นร้อยละ 43 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 95

งบการเงินรวม

สิ้นสุดรอบเก้าเดือน					สิ้นสุดไตรมาส
	31.12.2015		31.12.2014		31.12.2015		31.12.2014
	รายงาน	แอลเอฟแอล*			รายงาน	แอลเอฟแอล*
11%	26,636	25,690	24,021	รายได้สุทธิ	9,044	8,699	8,035	13%
23%	4,967	4,736	4,025	กำไรก่อนหักดอกเบี้ย  ภาษีนิติบุคคล ค่าเสื่อม  และค่าจัดจำหน่าย (EBITDA)	1,795	1,719	1,260	43%
34%	1,663	1,593	1,237	กำไรสุทธิ	650	634	334	95%
*อดิตยา เบอร์ลา เคมิคอล (อินเดีย) จำกัด (Aditya Birla Chemicals (India) Ltd.) (ABCIL) ได้รวมกิจการเข้ากับบริษัท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2015 ตัวเลขแอลเอฟแอล (เปรียบเทียบผลประกอบการปีนี้กับปีก่อนหน้า) โดยไม่รวมตัวเลขจาก ABCIL

ธุรกิจของกราซิมทั้งหมดแสดงว่า เส้นใยเรยอน (Viscose Staple Fibre (VSF)) เคมีภัณฑ์และปูนซีเมนต์ แสดงผลประกอบการที่ดีในไตรมาส การลงทุนโดยบริษัทเพื่อขยายขีดความสามารถและเพื่อการจัดสรรทรัพยากรได้ปรากฏผลลัพธ์คือมีการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 ของรายได้รวมที่ 90,440 ล้านรูปี และมีอัตราการเติบโตร้อยละ 43 ของ EBITDA ที่ 17,950 ล้านรูปี กำไรสุทธิได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 95 ที่ 6,500 ล้านรูปี

เส้นใยเรยอน (Viscose Staple Fibre (VSF))
ด้วยการร่วมกิจการกับห่วงโซ่คุณภาพ (value chain) เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้เส้นใยเรยอน โดยเน้นการเพิ่มทุนในไฟเบอร์เฉพาะและทำทางลาดขึ้นที่โรงงานในวิลาศ (Vilayat) ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เพิ่มขึ้น โดยผลที่ได้ก็คือ ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 24 จาก 97K MT ในไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2015 เป็น 121K MT ในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2016 เกิดความเข้าใจเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 ซึ่งแนวโน้มของราคาตลาดโลกคาดว่าจะสูงขึ้น และผลที่ได้ก็คือ EBITDA เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 126 ที่ 3,080 ล้านรูปี

การร่วมทุนกับบริษัทอื่นๆ ของบริษัทยังส่งให้ผลประกอบการดีขึ้น ทั้งในแง่ปริมาณการผลิตและเพิ่มความเข้าใจได้มากขึ้น

สำหรับธุรกิจเคมีภัณฑ์
มีรายได้เพิ่มขึ้นทวีคูณจาก 4,420 ล้านรูปีในไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2015 เป็น 8,710 ล้านรูปีในไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2016 ซึ่งมีผลมาจากการการร่วมทุนกับ ABCIL และการเติบโตของโรงงานที่มีอยู่ ปริมาณการผลิตโซดาไฟเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 87 ปริมาณเรซินสังเคราะห์ (Epoxy) เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 โดยได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั้งจากภายในประเทศและมีการส่งออกที่เพิ่มสูงขึ้น EBITDA เพิ่มขึ้นจาก 670 ล้านเป็น 1,770 ล้านรูปี ตัวเลขแอลเอฟแอล (เปรียบเทียบผลประกอบการปีนี้กับปีก่อนหน้า) โดยไม่รวมตัวเลขจาก ABCIL แล้ว EBITDA เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 50 ที่ 1,010 ล้านรูปีโดยมีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ลดลง

บริษัทในเครือปูนซีเมนต์ (อัลตรา เทค ซีเมนต์)
ก็มีผลประกอบการที่ดีกว่าโดยมีอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตในอัตราประมาณร้อยละ 4.5 ของกลุ่มอุตสาหกรรม โดยบริษัทได้เล็งเห็นส่วนแบ่งตลาดในชนบท EBITA อยู่ที่ 12,450 ล้านรูปี เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 18 จาก 10,580 ล้านรูปี กำไรหลังหักภาษีสูงขึ้นร้อยละ 36 เป็น 5,460 ล้านรูปี ถึงแม้ว่าราคาปูนซีเมนต์ยังคงอ่อนลง แต่ผลประกอบการระหว่างไตรมาสก็ยังไม่ลดหย่อนลง โดยมีสาเหตุหลักมาจากประสิทธิภาพในการดำเนินการ การผสานการใช้เชื้อเพลิงอย่างรอบคอบ และค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ลดลง อย่างไรก็ตาม รายได้บางส่วนได้นำไปชดเชยให้กับการเรียกเก็บภาษีจากสำนักงานเหมืองแร่ของตำบลและการเพิ่มโบนัสหนี้สินให้กับพนักงาน

ทัศนคติ
ต่อราคาเส้นใยเรยอนเป็นไปตามตลาดสากลในไตรมาสเนื่องจากความต้องการที่ลดลงในช่วงจบฤดูกาล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ บริษัทจะยังคงให้ความสำคัญกับการขยายตลาดในประเทศ ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การทำงานอย่างใกล้ชิดกับแบรนด์ ผู้ออกแบบ และร้านค้าปลีก ลูกค้าคุณภาพดี ที่ผ่านการเชื่อมโยงกับแบรนด์ Liva จะนำไปสู่การเจริญเติบโตของความต้องการผลิตภัณฑ์เส้นใยเรยอนที่อยู่ในห่วงโซ่คุณภาพด้านสิ่งทอ

ความต้องการโซดาไฟในอินเดียคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นจากผู้ใช้ ด้วยเป็นผู้นำที่ใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรม บริษัทจะได้รับผลจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ ในส่วนของปูนซีเมนต์ มีแนวโน้มว่าความต้องการจะเพิ่มสูงขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ เนื่องจากรัฐบาลได้เน้นถึงการพัฒนาสาธารณูปโภค เมืองอัจฉริยะ และถนน เป็นต้น ซึ่งบริษัทจัดอยู่ในจุดที่เหมาะสมที่มีศักยภาพในการจัดหาได้ตามความต้องการของตลาด

กราซิมภูมิใจในตำแหน่งผู้นำในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมที่ประกอบการอยู่ ปูนซีเมนต์ เส้นใยเรยอน และเคมีภัณฑ์ ยังคงยืนหยัดแข็งแกร่งเช่นเดิม บริษัทคงความสามารถที่จะได้รับผลดีจากแนวโน้มที่ดีของวงจรชีวิตของธุรกิจ ซึ่งมีปัจจัยจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่พัฒนาขึ้น

แถลงการณ์เตือน
แถลงการณ์ใน “ข่าวประชาสัมพันธ์” นี้ เป็นการให้ข้อมูลด้านวัตถุประสงค์ การวางแผน การประมานการ ความคาดหวังหรือคาดการณ์ ซึ่งอาจเป็น “แถลงการณ์คาดการณ์” ที่อยู่ภายใต้กฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยหลักทรัพย์ ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างไปจากที่นำเสนอหรือที่กล่าวโดยนัย ปัจจัยสำคัญที่อาจสร้างความแตกต่างให้กับผลการดำเนินงานของบริษัท ได้แก่ สภาพอุปสงค์และอุปทานในอินเดียและตลาดโลก ราคาสินค้าสำเร็จรูป ความคล่องตัวของการจัดเก็บสินค้าและราคา วงจรความต้องการของตลาดและราคาตามตลาดหลักของบริษัท การเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับของภาครัฐ การจัดเก็บภาษี การพัฒนาด้านเศรษฐกิจในอินเดียและในประเทศต่างๆ ที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ และปัจจัยอื่นๆ อาทิ การดำเนินคดีความและข้อตกลงด้านแรงงาน บริษัทไม่รับผิดชอบต่อการแก้ไขหรือปรับปรุงแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า อันเกิดจากการพัฒนา ข้อมูลหรือเหตุการณ์ หรือสาเหตุอื่นที่เกิดขึ้นในภายหลังแต่อย่างใด