ยกระดับปัญญาประดิษฐ์เพื่อต้าน COVID-19
- Copy
การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดทั้งในด้านความเป็นอยู่ การทำงาน และเรื่องรอบตัวของเรา โลกต้องหยุดลงอย่างกะทันหันเมื่อรัฐบาลทั่วโลกต่างกำหนดให้มีการล็อคดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส หลังจากหลายเดือนที่ต้องหยุดนิ่ง โรงงานและสำนักงานทั้งหลายต่างทยอยกลับมาเปิดทำการอีกครั้งพร้อมกับกำหนดมาตรการ 3 อย่างคือ การเว้นระยะห่างทางสังคม หน้ากากอนามัย และการตรวจวัดอุณหภูมิ
สำหรับกลุ่มบริษัท Aditya Birla Group นั้น ความปลอดภัยของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดในวิกฤติสุขภาพครั้งนี้ กลุ่มบริษัทได้หันไปพึ่งพาปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้เชิงลึกเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับกำลังคนในหน่วยงานการผลิตและสำนักงานต่าง ๆ ส่วนงานด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ของกลุ่ม ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญของกลุ่มในด้านการวิเคราะห์และปัญญาประดิษฐ์ได้คิดค้นวิธีที่มีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายโดยการใช้ AI ในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยทั้งในส่วนงานการผลิตและในสำนักงาน
ด้วยอาศัยเทคโนโลยี VEDA (Video Enabled Decision and Alerts) ที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว ทีมงานได้จัดทำเวอร์ชันปรับปรุงใหม่ที่มาพร้อมกับความสามารถขั้นสูงเพื่อตอบสนองต่อความต้องการในหน่วยงานการผลิตและสำนักงานในช่วงหลัง COVID “VEDA คือแพลตฟอร์ม AI และเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกสิทธิ์ชิ้นแรกของอุตสาหกรรมที่ใช้เทคนิคการมองเห็นโดยคอมพิวเตอร์เพื่อทำการแจ้งเตือนและให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อให้ทำการตัดสินใจได้ในแบบเรียลไทม์” คุณ Deep Thomas หัวหน้ากลุ่มเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลและการวิเคราะห์ของ Aditya Birla Group อธิบาย
แพลตฟอร์ม VEDA มีการปรับใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)/การเรียนรู้โดยเครื่องจักร (Machine Learning) (AI/ML) ที่จัดทำตามวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อทำการวิเคราะห์วิดีโอและมอบโซลูชันที่ปรับแต่งได้ตามความเหมาะสมเพื่อแก้ปัญหาทางธุรกิจ “VEDA เป็นไอเดียที่มาจากแฮกกาธอน (Hackathon) ในปี 2019 ที่หกเดือนต่อมาก็ถูกนำมาใช้จนเป็นผลสำเร็จที่โรงงานใน Taloja ในช่วงล็อคดาวน์นั้น เราได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่ ๆ ลงในแพลตฟอร์มที่เสริมความปลอดภัยให้กับคนงานในช่วงหลัง COVID” คุณ Naveen Xavier รองประธานฝ่ายข้อมูลและการวิเคราะห์ของ Aditya Birla Group กล่าวเสริม แพลตฟอร์มนี้สามารถขยายขอบเขตได้และจัดทำเพื่อให้ปรับใช้งานได้อย่างรวดเร็วเพื่อประมวลผลฟีดวิดีโอหลาย ๆ รายการควบคู่ไปพร้อมกัน มีการใช้การวิเคราะห์วิดีโอขั้นสูงในแบบเรียลไทม์ จัดทำบนเอาต์พุทของโมเดลผ่านทางตรรกะทางธุรกิจที่กำหนดค่าได้และทำการเตือนในแบบเรียลไทม์ และมีการแจ้งเตือนและรายงานต่าง ๆ
VEDA รุ่นใหม่: ปฏิวัติการผลิตและพื้นที่ทำงาน
ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดอย่างในปัจจุบัน ทางทีมงานได้กำหนดให้ใช้ปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือหลักในการวิเคราะห์ถึงความปลอดภัยที่โรงงานและสำนักงาน และได้พัฒนาและปรับใช้ VEDA รุ่นปรับปรุงใหม่ที่มีคุณลักษณะใหม่ 3 อย่างที่เกี่ยวข้องกับช่วงหลังวิกฤติการณ์ COVID
การตรวจวัดอุณหภูมิ
การมีไข้นั้นเป็นอาการของการติดเชื้อโคโรน่าไวรัส ดังนั้นการตรวจวัดอุณหภูมิที่บริเวณทางเข้าสำนักงานจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญต่อการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส แต่อย่างไรก็ตาม การใช้กล้องตรวจจับอินฟราเรด (IR Sensor) ชนิดมือถือในการตรวจวัดอุณหภูมิของบุคลกรจำนวนมากนั้นต้องใช้เวลามาก ดังนั้น เพื่อให้ขั้นตอนนี้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทางกลุ่มบริษัทจึงใช้ VEDA โดยการผนวกรวมเข้ากับกล้องเพื่อให้ทำการฟีดแบบเป็นคู่ได้ โดยมีฟีด RGB จากเซนเซอร์รับภาพแบบ CMOS และฟีดความร้อนจากเซนเซอร์ VOX (Vanadium Oxide)
การตรวจจับใบหน้าจะเกิดขึ้นโดยการใช้ฟีด RGB และมีการตรวจจับอุณหภูมิจาก ROI ของหน้าผากซึ่งมองเห็นได้เหนือหน้ากากอนามัย กล้องตรวจจับความร้อนจะอ่านอุณหภูมิโดยมีความแม่นยำที่ +/- 0.5 องศาเซลเซียสในระยะห่างจากกล้อง 2 เมตร หากอุณหภูมิที่อ่านได้นั้นเหนือกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ก็จะมีการเตือนด้วยสัญญาณเสียงเพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่บริเวณทางเข้าได้เข้ามาดำเนินมาตรการตามความเหมาะสม
การตรวจจับหน้ากากอนามัย
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยเพื่อจำกัดการแพร่กระจายของไวรัส เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจเช็คด้วยมือและเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเอง ทีมงานของเราจึงติดตั้ง VEDA เข้ากับเครื่องตรวจจับที่ไม่ต้องสัมผัสเพื่อตรวจดูให้แน่ใจว่ามีการสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลาตามคำแนะนำ แต่อย่างไรก็ตาม หน้ากากอนามัยก็ไม่ได้มีการจัดทำไว้อย่างเป็นมาตรฐาน ดังนั้นเพื่อตรวจจับหน้ากากอนามัย จึงมีการใช้กระบวนการแบบสองขั้นตอน คือ การตรวจจับใบหน้าและการแบ่งประเภทหน้ากากอนามัย สำหรับการตรวจจับหน้ากากอนามัยนั้น VEDA ได้ใช้โมเดล CNN ที่อาศัยการเรียนรู้เชิงลึกอยู่แล้ว เพื่อฝึกการเรียนรู้ให้กับโมเดลตรวจจับหน้ากากอนามัย จึงมีการใช้โมเดลตรวจจับหน้ากากอนามัยเพื่อทำการดึงภาพส่วนใบหน้าออกจากฟิดวิดีโอ โดยภาพส่วนใบหน้าเหล่านี้จะถูกนำไปจัดประเภทโดยเจ้าหน้าที่ว่าเป็นแบบสวมหน้ากากอนามัยหรือไม่สวมหน้ากากอนามัย เครื่องมือจัดประเภท CNN ทั่วไปในการเรียนรู้เชิงลึกขั้นพื้นฐานนั้นมีอยู่ในชุดข้อมูล ถัดมา โมเดลการตรวจจับหน้ากากอนามัยบนฟีดวิดีโอจากโรงงานต่าง ๆ และจากกล้องทั้งหลายที่ติดตั้งด้วยความสูงที่แตกต่างกันจะได้รับการนำมาวิเคราะห์ จากนั้นภาพที่จับได้เหล่านี้จะถูกนำไปฝึกเรียนรู้ผ่านโมเดลการจัดประเภทแบบควบคู่ของการเรียนรู้เชิงลึกเพื่อตรวจจับหน้ากากอนามัย
การปฏิบัติเพื่อการเว้นระยะห่างทางสังคม
นอกเหนือจากการตรวจวัดอุณหภูมิและการตรวจจับหน้ากากอนามัยแล้ว ยังมีการกำหนดอัลกอริทึมการวัดถึงการเว้นระยะห่างทางสังคมไว้ใน VEDA ด้วย โดยอัลกอริทึมนี้เป็นการผสมผสานกันระหว่างการเรียนรู้เชิงลึกแบบสมัยใหม่และเทคนิคทางเรขาคณิตเพื่อการคาดการณ์ในแบบคลาสสิก แพลตฟอร์ม VEDA มีโมดูลที่คอยเฝ้าสังเกตถึงการเว้นระยะห่างทางสังคมโดยอยู่ในส่วนหนึ่งของชั้นของโมเดลของโซลูชันนี้ เมื่อฟีดวิดีโอใดก็ตามบันทึกได้ถึงการเกิดการละเมิดที่ต่ำกว่าเกณฑ์ค่าระยะห่างที่กำหนดไว้ในช่วงเวลาเฉพาะขั้นต่ำ ก็จะมีเสียงเตือนดังขึ้น โมดูลนี้จะตรวจจับคนงานไว้ในเฟรมและจากนั้นจะคำนวณระยะห่างระหว่างคนงานแต่ละคน ทีมงานได้ใช้วิธีการในการเรียนรู้การส่งผ่านและโมเดล MobileNetV2 ที่ปรับตามความเหมาะสมในการตรวจจับบุคคลโดยใช้เฟรมเวิร์ก TensorFlow ด้วยการใช้โมเดลการตรวจจับบุคคลบนแต่ละเฟรม แพลตฟอร์มก็จะให้ผลลัพธ์จากโมเดลในรูปแบบของสี่เหลี่ยมที่อยู่ในกรอบบนบุคคลที่ตรวจจับได้เพื่อตรวจหาระยะห่าง และเพื่อดูว่าบุคคลที่ตรวจจับได้นั้นปฏิบัติตามมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคมหรือไม่นั้น ก็จะมีการคำนวณอยู่เบื้องหลัง ความถูกต้องแม่นยำของระยะห่างนั้นขึ้นอยู่กับเมตริกซ์ของการเปลี่ยนรูป ซึ่งในทางกลับกันก็จะขึ้นอยู่กับการปรับเทียบที่แม่นยำของจุดบนภาคพื้นดิน
ขณะนี้เวอร์ชันปรับปรุงใหม่ของ VEDA นั้นได้ผสานรวมคุณลักษณะในการเฝ้าสังเกตถึงความปลอดภัยของคนงาน เช่น การใช้หน้ากากอนามัยและการรักษาระยะห่างทางสังคมเพื่อให้สอดรับกับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยในช่วงที่มีการควบคุมสถานการณ์ COVID หน่วยงานการผลิตและสำนักงานต่าง ๆ ของเราได้นำ VEDA มาปรับใช้กับมาตรการความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับ COVID แล้ว “VEDA เป็นแพลตฟอร์มที่ได้ผลอย่างมาก เรานำมาใช้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทัศนคติและนิสัยของคนงานในโรงงานได้เป็นผลสำเร็จ” คุณ Vaishali Surawar หัวหน้าฝ่ายผลิตของ Hindalco Industries Ltd. ใน Taloja กล่าว นอกจากนี้ VEDA ยังสามารถเฝ้าดูการใช้งานอุปกรณ์ PPE เช่น หมวกและเสื้อกั๊กนิรภัยต่าง ๆ ช่วยเสริมประสิทธิภาพให้กับการตรวจจับเพลิงไหม้ด้วยการสังเกตการณ์โดยสายตา ทำการเตือนเมื่อมีการลุกล้ำเขตหวงห้าม ตรวจจับยานพาหนะ ตรวจจับคุณภาพด้วยสายตา และทำการเตือนด้วยเสียงในแบบเรียลไทม์เมื่อตรวจพบว่ามีแนวโน้มว่าอาจเกิดเหตุการณ์ผิดปกติบนแดชบอร์ด
แพลตฟอร์ม VEDA สามารถทำการกำหนดค่าได้อย่างยืดหยุ่นเพื่อรับมือกับกรณีการใช้งานที่หลากหลายผ่านทางการวิเคราะห์วิดีโอ และสามารถปรับขนาดได้อย่างง่ายดายในโรงงานและสถานที่ทำงานต่าง ๆ ผ่านทางการปรับใช้งานตามสถานที่นั้น ๆ เพื่อนำมาซึ่งประโยชน์ในด้านความปลอดภัย การทำให้เป็นระบบอัตโนมัติ และเพื่อให้การดำเนินงานนั้นวางใจได้เมื่อต้องทำการตรวจตราผ่านทางสายตา การนำการวิเคราะห์ทางวิดีโอมาใช้จะช่วยในการเปลี่ยนรูปแบบในสภาวการณ์ทางธุรกิจ โดยเพิ่มพูนประสิทธิภาพให้กับกระบวนการทำงาน ช่วยให้เข้าใจถึงพฤติกรรมของลูกค้า และเสริมความปลอดภัยให้กับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันโดยยังสามารถลดการแทรกแซงของมนุษย์ได้อย่างเด่นชัดด้วย VEDA สามารถให้ประโยชน์ด้านต้นทุนได้อย่างมากมายเกินกว่าจะบรรยายได้ เช่น ช่วยในการเฝ้าระวังเพลิงไหม้ การรั่วไหลของน้ำมัน การจัดการชุมนุมของฝูงชน การเคลื่อนไหวของผู้คนในพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย และการใช้อุปกรณ์นิรภัยต่าง ๆ ของคนงานในพื้นที่ทำงาน
ด้วยอิงตามเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย แพลตฟอร์ม VEDA จึงนำมาซึ่งโซลูชันที่มีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อเสริมความปลอดภัยให้กับผู้คนและรักษาความปลอดภัยให้กับสถานที่ทำงาน
คุณ Sandeep Gurumurthi
หัวหน้ากลุ่ม ฝ่ายสื่อสารและแบรนด์
Aditya Birla Management Corporation Pvt. Ltd.
โทรศัพท์: +91-22-6652-5000 / 2499-5000
โทรสาร: +91-22-6652-5741 / 42