นักสู้พิทักษ์น้ำ: อุษา และชุมชนของเธอเปลี่ยนทะเลสาบในเบงกาลูรูที่กำลังจะตายได้อย่างไร

ฟัง
1 จำนวนนาทีที่อ่าน
แชร์:
นักสู้พิทักษ์น้ำ: อุษา และชุมชนของเธอเปลี่ยนทะเลสาบในเบงกาลูรูที่กำลังจะตายได้อย่างไร

เมื่อพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำจึงเป็นทรัพยากรที่สำคัญต่ออนาคตของโลก ทุกความพยายามในการอนุรักษ์น้ำ คือก้าวหนึ่งที่พาเราเดินหน้าต่อบนเส้นทางนี้

ในช่วงที่ปัญหาทะเลสาบและน้ำใต้ดินขาดแคลนในเมืองเบงกาลูรูยังคงเป็นข่าวใหญ่ ทะเลสาบพุตเทนาฮาลลีกลับกลายเป็นระบบนิเวศที่เจริญรุ่งเรือง มีนกมากกว่า 120 ชนิด ต้นไม้กว่า 500 ต้น และน้ำสะอาด ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณอูชาและทีมงานอันน่าทึ่งของเธอ

ขอแนะ อุษา ราชาโกปาลัน ผู้ที่เปลี่ยนทะเลสาบที่กำลังจะตายในเมือง ให้กลายเป็นโอเอซิสสีเขียว ด้วยความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ และการมีส่วนร่วมของชุมชน ตอกย้ำว่าเธอคือพลังที่แท้จริงเพื่อสิ่งดีงาม 

 

 

ในช่วงทศวรรษ 1960 เบงกาลูรูเคยเป็นเมืองแห่งทะเลสาบ โดยมีมากกว่า 280 แห่ง แต่ภายในปี 2006 ทะเลสาบเหลือรอดอยู่เพียง 194 แห่ง ทะเลสาบพุตเทนาฮาลลีใกล้บ้านของ Usha กำลังจะตายลงเพราะน้ำเสีย เศษขยะ และการเผาขยะที่เกิดขึ้นทุกวัน อุษา เริ่มรณรงค์เรียกร้องให้ BBMP (Bruhat Bengaluru Mahanagara Palike) เข้ามาฟื้นฟูทะเลสาบ เธอร่วมกับเพื่อนอีกสามคน ก่อตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไรชื่อว่า Puttenahalli Neighbourhood Lake Improvement Trust (PNLIT) เพื่อดูแลทะเลสาบแห่งนี้อย่างจริงจัง อุษา ชักชวนให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการสานต่อความพยายาม และในที่สุดพวกเขาก็กลายเป็นผู้สนับสนุนและผู้พิทักษ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทะเลสาบ บางคนบริจาคเงิน บางคนสละเวลาและแรงกายเพื่อช่วยกันเก็บขยะและกำจัดวัชพืช ไม่นาน ภารกิจและทะเลสาบแห่งนี้ก็กลายเป็นความภาคภูมิใจของชุมชน

ในปี 2012 ทาง BBMP ได้แต่งตั้งให้ PNLIT เป็นผู้ดูแลทะเลสาบอย่างเป็นทางการในนามของประชาชน อุษา เริ่มนำระบบไฮโดรโปนิกส์มาใช้เพื่อยกระดับคุณภาพน้ำ เธอร่วมกับสมาชิกในชุมชน เปลี่ยนท่อพีวีซีให้กลายเป็นเกาะลอยน้ำที่เต็มไปด้วยพืชซึ่งสามารถดูดซับมลพิษได้ เมื่อมีน้ำเสียจากพื้นที่ใกล้เคียงไหลเข้าทะเลสาบ PNLIT ก็ลุกขึ้นสู้และสามารถปกป้องทะเลสาบไว้ได้สำเร็จ

"ทะเลสาบหรือบ่อน้ำแต่ละแห่ง ไม่ว่าจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ ล้วนควรค่าแก่การอนุรักษ์" Usha กล่าว “อนาคตของเราอยู่ที่อากาศสะอาดและน้ำสะอาด และฉันเชื่อว่านี่คือความรับผิดชอบของทุกคน ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”

Aditya Birla Group ได้ร่วมมือกับ The Better India เพื่อส่งต่อเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจของผู้คนที่เป็น #AForceForGood