Aditya Birla Fashion and Retail Limited ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 4 และปีงบประมาณ 2020

ไฮไลท์สำคัญผลประกอบการไตรมาสที่ 4 และปีงบประมาณ 2020

• รายได้ตลอดทั้งปีบันทึกการเติบโตที่ 8% โดยอยู่ที่ 87,430 ล้านรูปี (ตาม Ind AS Adj.) ที่ 12,900 ล้านรูปี
• บริษัททำการขยายสาขาย่อย โดยเพิ่มร้านค้าขึ้นอีกเกือบ 400 แห่งตลอดปีงบประมาณ 2020
• มีแรงผลักดันการเติบโตที่แข็งแกร่งตลอดทั่วทุกภาคธุรกิจก่อนเกิดวิกฤติ COVID
• การหยุดนิ่งทางเศรษฐกิจที่เป็นผลมาจาก COVID-19 ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการรายไตรมาส โดยโรงงานการผลิตได้กลับมาดำเนินการแล้ว และ 1 ใน 3 ของร้านค้าได้กลับมาเปิดบริการแล้วในขณะนี้
• คณะกรรมการบริหารอนุมัติการใช้สิทธิ์ในการซื้อหุ้นออกใหม่ที่ 10,000 ล้านรูปี ความเคลื่อนไหวเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับงบดุลเพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งหมายสำหรับการเติบโตในระยะยาว

ผลประกอบทางการเงิน

อัปเดตทางธุรกิจ

ABFRL มีปีงบประมาณที่แข็งแกร่งในปี 2019-2020 โดยข้ามผ่านเกณฑ์การเติบโตที่สำคัญบางประการ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ ธุรกิจมีการเติบโตของรายได้ที่ 12% และ EBITDA ที่
19% ซึ่งเป็นผลประกอบการที่แข็งแกร่งในช่วงฤดูเทศกาล

ธุรกิจยังคงเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่งในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ซึ่งนำโดยงานมงคลสมรสและ EOSS ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง

ผลกระทบจาก COVID-19

อย่างไรก็ตาม ด้วยต้องปิดประเทศเพราะการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม จึงทำให้เกิดการจำกัดความเคลื่อนไหวและทำให้ผู้คนรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งทำให้ผู้บริโภคเริ่มหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น การดำเนินกิจการร้านค้าต่าง ๆ ที่ลดลงอย่างรวดเร็วส่งผลให้ยอดขายตกลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่สัปดาห์ที่สองของเดือนมีนาคม ซึ่งในท้ายที่สุด บริษัทต้องปิดทำการชั่วคราวเครือข่ายร้านค้าปลีกทั้งหมดตลอดทั้งเดือนเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการล็อคดาวน์ทั่วประเทศตามที่ประกาศโดยรัฐบาลแห่งอินเดีย การชะงักงันที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อผลประกอบการรายไตรมาส และนำมาซึ่งการลดลงของยอดขายและกำไรสำหรับไตรมาสที่ 4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ในระหว่างไตรมาส บริษัทใช้ความระมัดระวังทุกวิถีทางเท่าที่ทำได้เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของพนักงานทั่วประเทศ บริษัทเริ่มกลับมาเปิดดำเนินการทั่วประเทศอย่างช้า ๆ ตามแนวทางที่ออกโดย MHA และหน่วยงานท้องถิ่น บริษัทมีการจัดการเพื่อให้สามารถกลับมาเปิดทำการได้ที่โรงงานการผลิตทุกแห่งและที่คลังสินค้าส่วนใหญ่ ขณะนี้ จากเครือข่ายร้านค้าทั้งหมดที่ 3,041 แห่งนั้น กว่า 1,300 แห่งได้เริ่มเปิดทำการแล้ว แต่ละร้านที่เปิดทำการนั้นดำเนินการด้วยความระมัดระวังสูงสุด โดยได้นำมาตรฐานสูงสุดและวิธีการด้านความปลอดภัยและอนามัยมาใช้ เพื่อให้ปลอดภัยต่อทั้งพนักงานและผู้บริโภค

อีกธุรกิจยังมุ่งเน้นไปที่การเร่งการนำรูปแบบดิจิทัลมาปรับใช้กับทั่วทุกส่วนต่าง ๆ ของกิจการในเครือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นเส้นทางสู่ตลาดนั้นมีการขยายตัวอย่างแข็งขัน และบริษัทยังกำลังหาโอกาสในการเปิดตัวข้อเสนอรูปแบบการสื่อสารกับลูกค้าแบบผสมผสานด้วย

ด้วยความพยายามอย่างยิ่ง ด้วยเพราะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท Aditya Birla Group ที่ให้การตอบรับต่อวิกฤติหลายวิถีทางด้วยกัน บริษัทจึงทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อปรับเปลี่ยนโรงงานผลิตให้สามารถผลิตอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ได้เพื่อตอบสนองต่อความต้องการอันล้นหลามสำหรับชุด PPE สำหรับบุคลากรแนวหน้าที่ต้องรับมือกับ COVID จนถึงวันนี้ บริษัทได้ส่งมอบชุดป้องกัน PPE แล้ว 500,000 ชุดเพื่อให้อินเดียต่อสู้กับ COVID-19

สรุปผลประกอบการ

ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารของบริษัทมีมติอนุมัติผลประกอบการไตรมาสสิ้นสุด 31 มีนาคม 2020 ในวันนี้ ผลประกอบการทางการเงินเหล่านี้ คือ ผลที่ได้ภายหลังการใช้หลักการบัญชีตามการปรับที่จำเป็นเมื่อนำ Ind AS 116 มาใช้

สำหรับปีงบประมาณ 2020 บริษัทบันทึกการเติบโตของยอดขายที่ 8% โดยอยู่ที่ 87,430 ล้านรูปี EBITDA ที่เปรียบเทียบได้ของช่วงเวลาลดลงไปที่ 16% เป็น 5,180 ล้านรูปี ในระหว่างช่วงเวลา บริษัทประกาศ PBT ที่เปรียบเทียบได้ที่ 570 ล้านรูปีเทียบกับ 1,490 ล้านรูปีในปีก่อน บริษัทยังขยายกิจการค้าปลีกอย่างแข็งขันโดยเพิ่มร้านค้าอีกเกือบ 400 แห่งที่อยู่ภายใต้แบรนด์

ในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2020 บริษัทประกาศการปรับลดลงของยอดขายที่ 5% เป็น 18,170 ล้านรูปี และ EBITDA loss อยู่ที่ 430 ล้านรูปีเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน โดยในขณะเดียวกัน EBITDA ที่รายงาน (หลัง Ind AS 116) สำหรับไตรมาสอยู่ที่ 1,730 ล้านรูปี

ไฮไลท์ส่วนธุรกิจ

ส่วนธุรกิจ Madura:

ส่วนธุรกิจ Madura ประกอบด้วย แบรนด์ไลฟ์สไตล์ – Louis Philippe, Van Heusen, Allen Solly และ Peter England แบรนด์แฟชั่นแบบรวดเร็ว – Forever 21 และ ธุรกิจอื่น ๆ ที่รวมถึงแบรนด์ระดับโลก เครื่องแต่งกายชั้นในและธุรกิจที่ลงทุนใหม่ เช่น เครื่องแต่งกายพื้นเมือง เป็นต้น Jaypore และ Shantanu & Nikhil ผลประกอบการทางการเงินแบบรวมกิจการรวมถึงการเงินของธุรกิจใหม่ทั้งสองเหล่านี้

ส่วนธุรกิจ Madura บันทึกการปรับลดลงของรายได้ที่ 7% ในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2020 โดยอยู่ที่ 12,290 ล้านรูปีเทียบกับ 13,200 ล้านรูปีในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งตามปกติแล้ว ส่วนธุรกิจนี้ควรได้เห็นการเติบโตที่ 10%

• แบรนด์ไลฟ์สไตล์ รายงานการลดลงของยอดขายที่ 5% ในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2020 โดยรายได้สำหรับช่วงเวลานี้อยู่ที่ 10,720 ล้านรูปี เปรียบเทียบกับ 11,320 ล้านรูปีในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนธุรกิจประสบการลดลงของ EBITDA ซึ่งเป็นผลมาจากการลดลงของยอดขายในเดือนมีนาคมอันเนื่องมาจาก COVID
  สำหรับปีงบประมาณ 2020 มีรายงานการเติบโตของรายได้ที่ 7% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยอยู่ที่ 46,260 ล้านรูปี
ส่วนธุรกิจ
• แฟชั่นแบบรวดเร็ว ยังคงมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ‘People’ มีการเปลี่ยนผ่านสู่การเป็น Pantaloons ส่วน Forever 21 ได้ทำการปรับโครงสร้างการเตรียมการทางการค้าร่วมกับบริษัทแม่
• ธุรกิจอื่น ๆ รายการผลิตภัณฑ์มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งขับเคลื่อนโดยประสิทธิภาพการดำเนินงานที่มั่นคงของส่วนธุรกิจย่อย อีกยังมีเครื่องแต่งกายชั้นในและแบรนด์ระดับโลกด้วย
• สำหรับปีงบประมาณ 2020 ส่วนธุรกิจบันทึกการเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่งที่ 42% เป็น 5,230 ล้านรูปี ในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2020 ส่วนธุรกิจนี้รายงานการเติบโตของรายได้ที่ 8% เป็น 1,160 ล้านรูปี
  • เครื่องแต่งกายชั้นในยังคงขยายฐานอย่างเข้มข้นโดยมีการปักหลักกระจายอยู่ในเอาท์เล็ต 20,000 แห่ง
  • รายการผลิตภัณฑ์แบรนด์ระดับโลกของ Collective และแบรนด์สากลระดับซูปเปอร์พรีเมียมยังมีผลประกอบการที่มั่นคง

กิจการ Pantaloons:

สอดคล้องกับการผลักดันการเติบโตที่แข็งแกร่งที่เห็นได้จาก 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ แบรนด์ Pantaloons ประกาศการเติบโตที่โดดเด่นที่ 13% ในสองเดือนแรกของไตรมาสที่ 4 อย่างไรก็ตาม สืบเนื่องจากผลกระทบจาก COVID ในเดือนมีนาคม รายงานรายได้ของไตรมาสจึงลดลงที่ 1% โดยอยู่ที่ 6,260 ล้านรูปี คล้องจองกับ EBITDA loss ที่ 380 ล้านรูปีในไตรมาสนี้

สำหรับแบบเต็มตลอดทั้งปี Pantaloons มียอดขายที่เติบโตขึ้นที่ 10% เป็น 35,140 ล้านรูปี ส่วน EBITDA มาร์จิ้นอยู่ที่ 6.3% ในปีนี้

การดำเนินการขององค์กร

คณะกรรมการบริหารของ Aditya Birla Fashion and Retail Limited (“บริษัท”) อนุมัติการเพิ่มทุนโดยการใช้สิทธิ์ในการซื้อหุ้นออกใหม่สำหรับจำนวนที่ไม่เกิน 10,000 ล้านรูปี (“การออกสิทธิ์”)อยู่ภายใต้การอนุมัติ ซึ่งอาจเป็นข้อกำหนดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัทมีการประเมินทางเลือกอย่างหลากหลาย และมีความเห็นว่าการใช้สิทธิ์ในการซื้อหุ้นออกใหม่เป็นแนวทางที่ยุติธรรมที่สุดในการระดมทุน เนื่องจากทำให้ผู้ถือหุ้นมีโอกาสทัดเทียมกับที่จะร่วมในการเติบโตของบริษัท โดยคณะกรรมการบริษัทได้ทำการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อให้ทำการประเมินและสรุปถึงข้อกำหนดและเงื่อนไขอื่น ๆ ทั้งหมดของการออกสิทธิ์ บริษัทมีตั้งใจที่จะให้การออกสิทธิ์เสร็จสมบูรณ์โดยเร็วที่สุด โดยอยู่ภายใต้ข้อกำหนดและปัจจัยด้านอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงการได้รับอนุมัติตามกฎหมายด้วย

แนวโน้ม

Aditya Birla Fashion and Retail Ltd. เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ประกอบการด้านเครื่องแต่งกายชั้นนำของอินเดีย และเป็นถิ่นกำเนิดของแบรนด์เครื่องแต่งกายอันมีเอกลักษณ์ที่สุดของอินเดีย กระจายอยู่ในหลากหลายภาคส่วน จุดขายและโอกาสในการสวมใส่ บริษัทมีรายการผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย ซึ่งในขณะนี้ครอบคลุมขอบเขตการเติบโตที่เร้าใจ ด้วยตลาดมีการเปิดอีกครั้งภายหลังการล็อคดาวน์ บริษัทจึงตั้งเป้าหมายว่าจะเปิดทำการแบบเต็มที่ให้เร็วที่สุด ด้วยเป็นผู้นำทั่วทั้งแบรนด์ การกระจายที่กว้างขวางและเชิงลึก มีความสามารถด้านดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น พร้อมด้วยเหล่าพนักงานที่มีความสามารถ ABFRL จึงอยู่ในฐานะที่จะสามารถเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคง

เกี่ยวกับ Aditya Birla Fashion and Retail Limited

Aditya Birla Fashion and Retail Limited เป็นบริษัทผู้ประกอบการด้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์เพียงอย่างเดียวที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย โดยมีกิจการแฟชั่นแบรนด์ชั้นนำและกิจการในรูปแบบค้าปลีกที่แข็งแกร่ง บริษัทมีเครือข่ายร้านค้าอยู่ 3,041 แห่ง โดยมีเอาท์เล็ตแบบหลายแบรนด์ที่ประมาณ 25,000 แห่งพร้อมจุดขาย 6,500+ แห่งในห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศอินเดีย

คำสงวนสิทธิ์: ข้อความบางส่วนใน "ข่าวประชาสัมพันธ์" ฉบับนี้ อาจไม่อยู่บนพื้นฐานตามข้อมูลตามประวัติหรือข้อเท็จจริง โดยอาจเป็น “แถลงการณ์คาดการณ์” ที่อยู่ภายใต้กฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยหลักทรัพย์ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง เรื่องที่เกี่ยวข้องกับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ทั่วไปของบริษัท แนวโน้มและความคาดหวังในอนาคต การพัฒนาธุรกิจในอนาคต สภาวะการณ์ด้านกฎหมายและการแข่งขัน และมุมมองและสมมติฐานจากการบริหารจัดการในปัจจุบัน ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างไปจากที่นำเสนอหรือที่กล่าวโดยนัย บริษัทไม่รับผิดชอบต่อการแก้ไขหรือปรับปรุงแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า อันเกิดจากการพัฒนา ข้อมูลหรือเหตุการณ์ หรือสาเหตุอื่นที่เกิดขึ้นในภายหลังแต่อย่างใด "ข่าวประชาสัมพันธ์" นี้ ไม่ใช่หนังสือชี้ชวน บันทึกข้อตกลง หรือข้อเสนอให้ซื้อหุ้นแต่อย่างใด และไม่อาจพิจารณาได้ว่าเป็นคำแนะนำให้นักลงทุนจับจองหรือซื้อหุ้นของทางบริษัทแต่อย่างใด ผลประกอบการทางการเงินที่แสดงใน "ข่าวประชาสัมพันธ์" ฉบับนี้ ได้รับการปรับตัวเลขให้ใกล้เคียงที่สุดกับหน่วย สิบล้านรูปี ผลประกอบการทางการเงิน เป็นผลทางการเงินรวม เว้นเสียแต่ได้ประกาศไว้เป็นอื่น