UltraTech ตั้งเกณฑ์มาตรฐานใหม่ด้วย Dhar Cement Works

โรงงานแห่งใหม่ในรัฐมัธยประเทศเปิดดำเนินการได้ในระยะเวลาที่เป็นประวัติกาลและด้วยค่าใช้จ่ายที่ต่ำเป็นประวัติกาล

โรงงาน Dhar Cement Works (DCW) ใน Tonki รัฐมัธยประเทศ

UltraTech ผู้ผลิตซีเมนต์รายใหญ่ที่สุดในอินเดียเพิ่มระดับศักยภาพในการผลิตและกำหนดเกณฑ์มาตรฐานการผลิตใหม่ด้วยการเปิดดำเนินการ Dhar Cement Works (DCW) ในรัฐมัธยประเทศเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2018

สร้างขึ้นในเวลา 12 เดือนอันเป็นประวัติกาล DCW ยังมีความแตกต่างที่สร้างขึ้นด้วยค่าใช้จ่ายที่ต่ำเป็นประวัติกาลและเกิด ‘อุบัติเหตุเป็นศูนย์’

ตั้งอยู่ใน Tonki ที่ห่างจาก Indore รัฐมัธยประเทศราว 140 กม. โรงงานมีการติดตั้งศักยภาพในการผลิตปูนเม็ดที่ 2.5 mtpa ซึ่งทั้งนี้จะเป็นการเร่งให้ UltraTech ครองตำแหน่งผู้นำทางการตลาดในรัฐให้เร็วขึ้นด้วยการจัดส่งไปยังบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐมัธยประเทศ และขยายรอยทางไปยังทางตะวันออกของรัฐคุชราตและตอนเหนือของรัฐมหาราษฏระ

ก้าวไปข้างหน้าสู่ทุกจุดหมาย

ตามที่ประเมินไว้ในขั้นต้น โรงงานจะดำเนินกิจการได้ภายในระยะเวลา 16 เดือน ความคิดนอกกรอบบางอย่างและการขยายขอบเขตร่วมกันช่วยให้ทีมงานร่นเวลาลงเหลือ 12 เดือน

ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ทีมงาน UltraTech ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย วิธีการแบบหลายด้านหลายประโยชน์ได้ช่วยให้สามารถข้ามผ่านความท้าทายเหล่านี้มาได้ ในตอนต้น มีการสร้างสภาวะการทำงานแบบไร้รอยต่อโดยการตัดการจัดระบบตามลำดับขั้น และมอบหมายความรับผิดชอบเพื่อช่วยให้การตัดสินใจทำได้รวดร็วขึ้น

ประสิทธิภาพในการดำเนินงานเป็นคำสำคัญ ซึ่งสะท้อนให้เห็นอยู่ในผังของโรงงานด้วย ผังโรงงานที่กระชับที่สุดและมีประสิทธิภาพที่เอื้อต่อการดำเนินงานสูงสุดได้ถูกคัดเลือกออกจากการออกแบบกว่า 20 แบบที่สร้างขึ้นโดยทีมงาน ซึ่งผลที่ได้ก็คือ ความยาวของสายพานขนส่งวัสดุ ถนน กำแพงกั้น ฯลฯ ถูกลดลงได้ถึงร้อยละ 30

งานการออกแบบและงานด้านวิศวกรรมหลัก ๆ ที่บรรจุข้อมูลดำเนินการแล้วเสร็จตั้งแต่ขั้นตอนพรี-ออเดอร์ ซึ่งเป็นการลดระยะเวลางานโยธาได้ถึง 3 เดือน ยิ่งไปกว่านั้น งานก่อสร้างยังดำเนินไปอย่างไม่มีหยุดเพื่อให้เสร็จตามเกณฑ์ที่กำหนด

นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานทั่วไป เช่น ถนนในโรงงาน ถนนที่นำไปสู่เหมือง ฯลฯ ยังได้รับการสร้างขึ้นแล้วเสร็จก่อนการเคลื่อนย้ายเข้าช่วงเริ่มงานของผู้รับเหมา ทีมงานได้จัดเตรียมพลังงานเพื่อการก่อสร้างไว้ในหลาย ๆ จุดและถึงกับสร้างที่พักสำหรับแรงงาน 200 คนเพื่อให้ผู้รับเหมาเข้ามาทำงานได้อย่างรวดเร็วและประหยัดเวลาอันมีค่า

ซึ่งช่วยให้ผู้รับเหมาเริ่มงานได้ภายใน 2 วันที่มาถึงและไม่ต้องใช้เวลาเตรียมการที่จำเป็นได้ถึง 2 สัปดาห์ ทีมงานยังจัดแถวการทำงานให้กับช่างรับเหมาหลาย ๆ รายเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงได้เร็วขึ้น

ยุทธศาสตร์การหล่อเลี้ยงที่สมบูรณ์

เพื่อให้แน่ใจได้ถึงความคืบหน้าที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วด้วยการมีวัสดุพร้อมใช้เพื่อป้องกันการหยุดชะงักตามกำหนดการ ทีมงานจึงได้จัดตั้งโรงงานเครื่องย่อยหินและคอนกรีตสำเร็จรูปไว้ที่ไซต์งาน พวกเขาใช้ทรายเทียมและเก็บรักษาไว้ในคลังสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อให้มีพร้อมใช้ตลอดช่วงระยะงานโครงการ

ทีมงานยังให้ความไว้วางใจอย่างยิ่งต่ออุปกรณ์ที่เคลื่อนไหวด้วยเครื่องยนต์เพื่อให้ช่วงระยะการก่อสร้างเป็นไปอย่างราบเรียบและรวดเร็วขึ้น การใช้เครน การประกอบการบรรทุกหนักบนภาคพื้นทำให้กำหนดการที่วางไว้ทำได้สำเร็จได้เร็วขึ้น อีกปัจจัยที่ช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างรวดเร็วคือความสร้างสรรค์ทางวิศวกรรมต่าง ๆ เช่น การกำหนดมาตรฐานอุโมงค์และช่องบันได การใช้โครงสร้างสนับสนุนและขนาดอาคารให้เกิดประโยชน์สูงสุด และการปรับการออกแบบโรงงานเพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภาพและผลผลิต

ทำสถิติใหม่

โครงการ DCW ยังมีความโดดเด่นจากความสำเร็จอีกสองด้านคือ ก่อสร้างด้วยค่าใช้จ่ายที่ต่ำและ ‘อุบัติเหตุเป็นศูนย์’ ทีมงานได้คิดค้นแนวคิดแปลกใหม่โดยให้มีคณะกรรมการตรวจสอบองค์กรและ ‘zimmedars’ (ผู้ว่าการ) ที่ให้แรงงานและหัวหน้างานเข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัย ยังมีการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกและการควบคุมงานเพื่อให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและการดำเนินงานที่ไร้อุบัติเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการใช้นั่งร้านและยกของหนัก มาตรฐานด้านความปลอดภัยของ UltraTech มีการแผ่ขยายไปอย่างกว้างขวางเพื่อให้มั่นใจได้ถึงการยินยอมปฏิบัติตามโดยผู้มีส่วนร่วมทุกคน

ความกระตือรือร้นและความมุ่งมั่นอันเป็นแบบอย่างที่แสดงให้เห็นโดยทีมงาน DCW ได้รับการสรรเสริญและยอมรับจากผู้บริหาร UltraTech และกลายเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับการก่อสร้างโรงงานต่อไปในอนาคต