คุณ Ghanshyam Das Birla

รากเหง้าของกลุ่ม Aditya Birla Group สามารถสืบย้อนไปยังศตวรรษที่ 19 ในเมืองที่งดงามดั่งจินตภาพของ Pilani ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายในรัฐราชสถาน ณ ที่นี้ Seth Shiv Narayan Birla เริ่มทำการค้าฝ้าย อันเป็นฐานรากแห่งตระกูล Birla

ในช่วงเวลาที่แสนลำบากในอินเดียเมื่อราว ค.ศ. 1850 ธุรกิจของตระกูล Birla ขยายออกไปได้อย่างรวดเร็ว ในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 คุณ Ghanshyam Das Birla บิดาผู้ก่อตั้งกลุ่มได้ก่อตั้งส่วนอุตสาหกรรมที่สำคัญ อาทิ สิ่งทอและไฟเบอร์ อะลูมิเนียม ซีเมนต์ และเคมีภัณฑ์ ด้วยเป็นเพื่อนคู่ใจกับ Mahatma Gandhi เขาจึงมีบทบาทสำคัญในช่วงที่มีการต่อสู้เพื่อเสรีภาพในอินเดีย เขาเป็นผู้แทนอินเดียในการประชุมโต๊ะกลมครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สองในกรุงลอนดอนร่วมกับ Gandhiji ที่บ้านตระกูล Birla ในกรุงเดลี ผู้ที่จุดประกายให้กับการต่อสู้เพื่อเสรีภาพของอินเดียมักพบปะกันเพื่อวางแผนการลดอำนาจบริติชราช

หากแต่คุณ Ghanshyam Das Birla เห็นว่าสิ่งนี้ไม่มีความขัดแย้งใด ๆ ต่อการทำให้เป้าหมายทางธุรกิจบรรลุผล ดังนั้นจึงมีหนึ่งในนักอุตสาหกรรมรุ่นแรก ๆ เกิดขึ้นในช่วงก่อนเอกราชของอินเดีย  อันเป็นหลักการที่ซึมซับถ่ายทอดสืบมายังหลานปู่ของเขา คุณ Aditya Vikram Birla ผู้นำผู้เป็นตำนานของกลุ่ม

Ghanshyam Das Birla com Mahatma Gandhi.

Ghanshyam Das Birla กับ Mahatma Gandhi

คุณ Aditya Vikram Birla

ผู้เป็นกำลังอันน่าเกรงขามแห่งอุตสาหกรรมอินเดีย คุณ Aditya Vikram Birla กล้าที่จะท้าทายความฝันในการก่อตั้งอาณาจักรแห่งธุรกิจระดับโลกในขณะที่มีอายุเพียง 24 ปี ท่านเป็นคนแรกที่ทำให้ธุรกิจอินเดียปรากฏอยู่บนแผนที่โลก นับย้อนไปตั้งแต่ปี 1969 ซึ่งเป็นเวลาอันเนิ่นนานก่อนที่คำว่าโลกาภิวัฒน์จะเป็นคำที่เป็นที่รู้จักกันในอินเดีย

ต่อมาในช่วงเวลาที่ประเทศในเขตเอเซียตะวันออกเฉียงใต้สั่นสะเทือนและมีการเปิดตลาดเสรี เขากล้าเสี่ยงที่จะก่อตั้งฐานการผลิตระดับโลก เขามองเห็นถึงกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงในอนาคตและเดิมพันอนาคตทางธุรกิจของเขาไว้กับตลาดแข่งขันสมบูรณ์ ตลาดเสรีที่ขับเคลื่อนการสั่งซื้อแบบประหยัด เขาวางรากฐานให้ธุรกิจอินเดียก้าวสู่ระดับสากล ซึ่งเป็นเวลา 22 ปีก่อนที่การเปิดเศรษฐกิจเสรีจะได้รับการนำเสนออย่างเป็นทางการโดยอดีตนายกรัฐมนตรีนาย Narasimha Rao และโดยอดีตรัฐมนตรีคลังสหภาพ Dr. Manmohan Singh เขาจัดตั้งบริษัท 19 แห่งนอกอาณาจักรอินเดีย ทั้งในประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และอียิปต์

เป็นที่น่าสนใจ ซึ่งโดยสำหรับคุณ Aditya Birla แล้ว โลกาภิวัฒน์มีความหมายมากกว่าการเข้าถึงได้ในทางภูมิศาสตร์ โดยเขาเชื่อมั่นว่า ธุรกิจนั้นสามารถทำได้ทั่วโลกขณะที่มีรากฐานอยู่ในอินเดีย ดังนั้น เมื่อกลับมายังแดนเกิด เขาจึงมุ่งมั่นด้วยใจที่เด็ดเดี่ยวในการเชื่อมบล็อคอาคารหลาย ๆ หลังเข้าด้วยกันเพื่อสร้างฐานกำลังระดับโลกให้กับธุรกิจอินเดียของเรา

ภายใต้การดำเนินงานของเขา บริษัทของเขาก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้ผลิตเส้นใยเรยอนรายใหญ่ที่สุดของโลก เป็นโรงกลั่นน้ำมันปาล์มที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นผู้ผลิตฉนวนรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และเป็นผู้ผลิตคาร์บอนแบล็ครายใหญ่อันดับที่ 6 ของโลก ในอินเดีย พวกเขาก้าวสู่สถานะการเป็นผู้ผลิตเส้นใยวิสคอสแบบยาวรายใหญ่ที่สุดรายเดียวนอกเหนือจากการเป็นผู้ผลิตซีเมนต์ ปูนซีเมนต์เทา และเยื่อเรยอน กลุ่มยังคงเป็นผู้ผลิตอะลูมิเนียมเอกชนรายใหญ่ที่สุด เป็นผู้ผลิตที่ให้ราคาขั้นต้นต่ำที่สุดในโลก และเป็นผู้ผลิตลินินรายเดียวในอุตสาหกรรมสิ่งทอของอินเดีย

เมื่อเขาเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในปี 1995 รายได้ของกลุ่มอยู่ที่เกินกว่า 80,000 ล้านรูปี โดยมีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 90,000 ล้านรูปีที่ประกอบด้วยโรงงานระดับคุณภาพ 55 แห่ง มีความแข็งแกร่งด้วยกำลังพนักงาน 75,000 คน และชุมชนผู้ถือหุ้นที่ราว 600,000 คน
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ
บริษัทของเขาได้รับการนับถือและยกย่องจากประชาชนในฐานะหนึ่งในห้างร้านที่ดีเยี่ยมที่สุดในอินเดีย และเป็นกลุ่มธุรกิจข้ามชาติที่มีฐานอยู่ในอินเดียแห่งแรก ด้วยบันทึกอันเป็นตำนานอันโดดเด่นขององค์กรนี้ เขาช่วยสร้างความมั่งคั่งอันมหาศาลให้แก่ประเทศชาติ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรธุกิจอินเดียในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงเวลาของเขา ความสำเร็จของเขาไม่อาจนำไปเทียบเคียงกับนักอุตสาหกรรมอื่นใดในอินเดียได้

อาชีพของผมคือการต่อสู้อย่างไม่หยุด เพื่อให้เอื้อมถึงความเป็นเลิศในทุกขอบเขตของการจัดการ โดยการถักทอสายใยขององค์กร นำความรู้ ประสบการณ์ แนวคิดและชิ้นงานเข้าสู่ผืนผ้าที่อาจเรียกได้ว่า ‘การจัดการ’

— คุณ Aditya Vikram Birla