Aditya Birla Fashion and Retail ประกาศการเติบโตของรายได้ 26% เมื่อเทียบปีต่อปีในไตรมาส 4 ปีงบฯ 2023 แม้จะมีสภาพแวดล้อมการบริโภคที่ท้าทาย

จุดเด่นผลประกอบการสำหรับไตรมาสนี้

1. บริษัทเร่งการเติบโตของโมเมนตัมและยังคงสร้างความก้าวหน้าที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ แผนระยะยาว

• เติบโต 26% เมื่อเทียบปีต่อปีโดยมีรายได้ที่ 28,800 ล้านรูปี สำหรับไตรมาส
• รายได้ทั้งปีสูงถึง 124,180 ล้านรูปี สำหรับปีงบฯ 2023 เพิ่มขึ้น 53% เมื่อเทียบปีต่อปีและ 41% ในช่วงก่อนเกิด โควิด

2. EBITDA รวมสำหรับไตรมาสอยู่ที่ 2,320 ล้านรูปี

• บริษัทบรรลุ EBITDA ประจำปีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 16,170 ล้านรูปี

3. การเติบโตของธุรกิจยังคงนำโดยการขยายตัวทางออฟไลน์เชิงรุก

• เครือข่ายธุรกิจแบรนด์เพิ่ม 104 ร้านค้าบนพื้นฐานสุทธิ
  • TASVA ได้เพิ่มร้านค้าใหม่ 19 แห่งเข้ากับเครือข่าย
• Pantaloons เพิ่มร้านค้าสุทธิ 25 แห่งเข้ากับเครือข่ายของแบรนด์

4. บริษัทยังเสริมกิจกรรมด้านดิจิทัลและช่องทาง Omnichannel ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

• ยอดขาย E-com ในไตรมาส 4 เพิ่มขึ้น 77% เมื่อเทียบปีต่อปีซึ่งได้แรงหนุนจากพันธมิตร B2B และ brand.com ที่มีประสิทธิภาพ
  • รายได้ E-com ต่อปีตอนนี้มากกว่า 13,000 ล้านรูปี
  • SuperApp ใหม่ของ Lifestyle ได้เปิดตัวโดยมุ่งสร้างนิยามใหม่ของความสะดวกสบายและการปรับเปลี่ยนตามความต้องการ
• นอกเหนือจากการรวมแบรนด์ที่ได้มา TMRW ยังคงมีส่วนร่วมในความก้าวหน้าของรูปแบบธุรกิจและผลักดันการสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์ต่าง ๆ เหล่านี้

5. เมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัทได้ประกาศการเข้าซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์ครั้งใหญ่ที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ในการสร้างพอร์ตโฟลิโอเครื่องแต่งกายชาติพันธุ์ที่ครอบคลุม

• บริษัทได้ลงนามในข้อตกลงขั้นสุดท้ายเพื่อซื้อกิจการ TCNS Clothing Company Limited ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ชาติพันธุ์ W, Aurelia, Wishful, Folksong และ Elleven

6. โดยปิดไตรมาสด้วยหนี้สินสุทธิ 14,220 ล้านรูปี โดยหลัก ๆ มาจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในการเติบโตใหม่

ผลประกอบการทางการเงิน

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันนี้ได้อนุมัติผลประกอบการสำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2023 ซึ่งผลประกอบการทางการเงินเหล่านี้ คือผลที่ได้ภายหลังการใช้หลักการบัญชีตามการปรับที่จำเป็นเมื่อนำ Ind AS 116 มาใช้

การเงิน – ไตรมาส 4

การเงิน – ปีงบฯ

การเติบโตของรายได้รายไตรมาสได้รับแรงหนุนจากยอดขายค้าปลีกแบบ like-to-like (LTL) ที่แข็งแกร่งทั่วทั้งธุรกิจ การเร่งการเล่นแบบหลายช่องทางและการขยายเครือข่ายในขณะที่บริษัทเพิ่มสาขามากกว่า 500 แห่งในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิสำหรับไตรมาสได้รับผลกระทบเนื่องจากภาระหนี้จากการดำเนินงานที่ติดลบจากยอดขายที่ซบเซา การใช้จ่ายด้านการตลาดที่เพิ่มขึ้น (ประมาณ 1.5 เท่าของปีที่แล้ว) และการลงทุนอย่างต่อเนื่องใน TMRW ยังส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรในไตรมาสนี้ด้วย

แต่ละกลุ่มธุรกิจมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง

• แบรนด์ไลฟ์สไตล์ – ไตรมาส 4 ที่ดีที่สุดสำหรับแบรนด์ไลฟ์สไตล์เนื่องจากรายได้เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบปีต่อปีแตะที่ 15,350 ล้านรูปี จากการเติบโตของ LTL ค้าปลีกที่แข็งแกร่ง 16% EBITDA อยู่ที่ 2,250 ล้านรูปี แบรนด์ต่าง ๆ ได้ขยายฐานลูกค้าที่ภักดีอย่างต่อเนื่องโดยการจัดหาสินค้าคุณภาพระดับไฮเอนด์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ และผ่านแคมเปญการตลาดที่มีผลกระทบ แบรนด์ต่างๆ เพิ่มร้านค้าสุทธิ 49 แห่งในเครือข่ายในระหว่างไตรมาส และยังประสบความสำเร็จในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในเครือข่ายเมืองเล็ก ๆ โดยขยายเป็น 600 ร้านค้าพร้อมการดำเนินงานที่สร้างกำไร
• Pantaloons – ธุรกิจมียอดขายรายไตรมาสที่ 7980 ล้านรูปี เติบโต 18% เมื่อเทียบปีต่อปีจากการเติบโต L2L 13% แม้ว่าอุปสงค์ตามดุลยพินิจจะชะลอตัวลงอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนมูลค่าและปริมาณมาก แม้ว่าจะมีความท้าทายในตลาด แต่ธุรกิจก็ยังคงอยู่บนเส้นทางสำหรับแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว เนื่องจากได้เพิ่มร้านค้าสุทธิ 25 แห่งในระหว่างไตรมาสเพื่อออกจากปีงบฯ 2023 ด้วยร้านค้า 431 แห่ง
• กลุ่มเสื้อผ้าชั้นในและชุดกีฬา มีการเติบโตของรายได้ประมาณ 10% เมื่อเทียบปีต่อปี ในไตรมาส 4 นี้ แม้ว่ากลุ่มเสื้อผ้าชั้นนอกจะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ในระหว่างไตรมาสดังกล่าว แบรนด์ดังกล่าวได้ส่งเสริมการเข้าถึงและผลกระทบโดยการเพิ่ม MBO กว่า 900+ แห่งเพื่อออกด้วยร้านค้าประมาณ 32,000 แห่ง ธุรกิจเปิดตัวเอกลักษณ์การค้าปลีกใหม่เพื่อประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เหนือกว่า
• กลุ่มแฟชั่นสำหรับเยาวชน ซึ่งประกอบด้วย American Eagle และ Forever 21 ส่งมอบประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งโดยได้แรงหนุนจากการขยายเชิงกลยุทธ์ในตลาดใหม่ ๆ และจากการริเริ่มสร้างแบรนด์ American Eagle ในไตรมาส 4 มีรายได้เติบโต 86% เมื่อเทียบปีต่อปี และการเติบโตของ LTL ค้าปลีกที่ 19%
• แบรนด์ระดับซูเปอร์พรีเมียม ซึ่งประกอบด้วยรูปแบบหลายแบรนด์ “The Collective” และแบรนด์ระดับซูเปอร์พรีเมียมอื่น ๆ แสดงผลงานที่แข็งแกร่งในไตรมาส 4 โดยมีรายได้เติบโต เมื่อเทียบปีต่อปีที่ 45% และการเติบโต LTL ค้าปลีกที่แข็งแกร่งที่ 31% ด้วยประสิทธิภาพออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและการใช้งานแคมเปญการตลาดที่ตรงเป้าหมาย thecollective.in กำลังอยู่ในเส้นทางที่จะกลายเป็นปลายทาง e-com หรูหราชั้นนำในอินเดีย
• แบรนด์ Reebok ได้เริ่มขยายการจัดจำหน่ายโดยการเปิดร้านค้าใหม่ เปิดตัว reebok.in และริเริ่มห้างสรรพสินค้าและพันธมิตรทางการตลาด แบรนด์ยังได้ร่วมมือกับแอมบาสเดอร์คนใหม่เพื่อเพิ่มความโดดเด่นและการรับรู้
• ธุรกิจชาติพันธุ์ เติบโตขึ้น ~72% เมื่อเทียบปีต่อปีในไตรมาสนี้ ผ่านการพัฒนาตลาดเชิงกลยุทธ์ การใช้ประโยชน์จากการเปิดร้านใหม่และการริเริ่มทางการตลาดที่ส่งผลกระทบ Sabyasachi เติบโต 42% เมื่อเทียบปีต่อปีในไตรมาส 4 เนื่องจากยังคงเป็นแบรนด์ยอดนิยมในหมู่ HNI และคนที่มีชื่อเสียง TASVA แบรนด์เสื้อผ้าชาติพันธุ์ระดับพรีเมียมสำหรับผู้ชายยังคงขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อออกจากปีงบฯ 2023 ด้วยสาขา 51 แห่ง S&N ประกาศรายได้ประจำไตรมาสสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยเติบโต 40% เมื่อเทียบปีต่อปี SNCC by S&N แบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกีฬา ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่อง

แนวโน้ม

ในขณะที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น บริษัทยังคงมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ที่ชัดเจนในการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและไร้กาลเวลา และจัดการธุรกิจด้วยความยืดหยุ่นและความคล่องตัว ด้วยการบริโภคตามดุลยพินิจที่เพิ่มขึ้นในระยะยาว อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มจึงเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตที่สำคัญซึ่งได้รับแรงหนุนจากการทำให้เป็นสินค้าพรีเมียมและการเปลี่ยนจากสินค้าที่ไม่มีแบรนด์ไปสู่สินค้าที่มีแบรนด์อย่างรวดเร็ว ชื่อเสียงอันแข็งแกร่งของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงของ ABFRL บวกกับการมุ่งเน้นที่ความเป็นเลิศของผลิตภัณฑ์ การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ความยั่งยืน และการขยายการจัดจำหน่าย ทำให้ ABFRL มีความมั่นใจในการเติบโตที่สม่ำเสมอและยั่งยืน

เกี่ยวกับ Aditya Birla Fashion and Retail Limited

ABFRL เป็นส่วนหนึ่งของ Aditya Birla Group กลุ่มบริษัทชั้นนำของอินเดีย ด้วยรายได้ที่ 124,180 ล้านรูปี ครอบคลุมพื้นที่ค้าปลีก 10.8 ล้านตารางฟุต (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2023) ABFRL เป็นมหาอำนาจด้านแฟชั่นที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์แห่งแรกของอินเดียที่มีกลุ่มแบรนด์แฟชั่นชั้นนำและรูปแบบการค้าปลีกที่หรูหรา

บริษัทมีเครือข่ายร้านค้า 3,977 แห่ง พร้อมด้วยร้านย่อยหลาย ๆแบรนด์ประมาณ 33,535 แห่ง โดยมีจุดขาย 6,723 จุดในห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศอินเดีย (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2023)

โดยมีผลงานของแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย อย่าง Louis Philippe, Van Heusen, Allen Solly และ Peter England ที่ก่อตั้งมานานกว่า 25 ปี Pantaloons เป็นหนึ่งในร้านค้าปลีกแฟชั่นชั้นนำของประเทศอินเดีย

กลุ่มผลิตภัณฑ์แบรนด์ต่างประเทศของบริษัทประกอบด้วย The Collective ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ค้าปลีกแบรนด์ต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย และมีความร่วมมือพิเศษระยะยาวกับแบรนด์ที่เลือก เช่น Ralph Lauren, Hackett London, Ted เบเกอร์, เฟร็ด เพอร์รี , Forever 21, American Eagle, Reebok และ Galeries Lafayette

การรุกเข้าสู่ธุรกิจเครื่องแต่งกายประจำชาติของบริษัทรวมถึงแบรนด์ต่าง ๆ เช่น Jaypore, Tasva & Marigold Lane บริษัทมีพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับนักออกแบบ 'Shantnu & Nikhil', 'Tarun Tahiliani', 'Sabyasachi' และ 'House of Masaba'

นอกจากนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทางดิจิทัล ABFRL กำลังสร้างพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับดิจิทัลเป็นอันดับแรก ภายใต้โครงการ 'House of D2C Brands' ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นหลัก TMRW TMRW อยู่บนเส้นทางสู่การสร้างพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์ดิจิทัลแห่งแรก โดยร่วมมือกับผู้ก่อตั้งแบรนด์เกิดใหม่ในตลาดอีคอมเมิร์ซ ด้วยการมุ่งเน้นไปที่หมวดหมู่แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ TMRW กำลังสร้างพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์ที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคมากที่สุดซึ่งใช้ประโยชน์จากศักยภาพการเติบโตที่สำคัญในอินเดียและทั่วโลก

คำสงวนสิทธิ์: ข้อความบางส่วนใน "ข่าวประชาสัมพันธ์" ฉบับนี้ อาจไม่อยู่บนพื้นฐานตามข้อมูลตามประวัติหรือข้อเท็จจริง โดยอาจเป็น “แถลงการณ์คาดการณ์” ที่อยู่ภายใต้กฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยหลักทรัพย์ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง เรื่องที่เกี่ยวข้องกับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ทั่วไปของบริษัท แนวโน้มและความคาดหวังในอนาคต การพัฒนาธุรกิจในอนาคต สภาวะการณ์ด้านกฎหมายและการแข่งขัน และมุมมองและสมมติฐานจากการบริหารจัดการในปัจจุบัน ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างไปจากที่นำเสนอหรือที่กล่าวโดยนัย บริษัทไม่มีส่วนรับผิดชอบในการแก้ไขต่อสาธารณะ ปรับปรุงหรือแก้ไขข้อความใด ๆ ที่อาศัยการพัฒนา ข้อมูล หรือเหตุการณ์ที่ตามมา หรืออย่างอื่น "ข่าวประชาสัมพันธ์" นี้ ไม่ใช่หนังสือชี้ชวน บันทึกข้อตกลง หรือข้อเสนอให้ซื้อหุ้นแต่อย่างใด และไม่อาจพิจารณาได้ว่าเป็นคำแนะนำให้นักลงทุนจับจองหรือซื้อหุ้นของทางบริษัทแต่อย่างใด ตัวเลขทางการเงินใน “ข่าวประชาสัมพันธ์” ฉบับนี้ได้รับการปรับให้ใกล้เคียงที่สุดกับหน่วย สิบล้านรูปี ผลประกอบการทางการเงิน เป็นผลทางการเงินรวม เว้นเสียแต่ได้ประกาศไว้เป็นอื่น