Grasim ประกาศผลประกอบการรายไตรมาสและรายปี สิ้นสุด 31 มีนาคม 2018

23 พฤษภาคม, 2561

คลิกที่นี่เพื่อดูผลลัพธ์

คลิกที่นี่เพื่อดูงานนำเสนอ

หน่วยเป็นล้านรูปี
กิจการเดี่ยว   รวมกิจการ
  ไตรมาส 4 ปีงบฯ 18 ไตรมาส 4 ปีงบฯ 17 ไตรมาส 4 ปีงบฯ 18 ไตรมาส 4 ปีงบฯ 17  
60% 4,606 2,876 รายได้สุทธิ 17,438 9,995 74%
70% 947 556 EBITDA 2,961 2,142 38%
67% 526 315 PAT* 914 775 18%
   *กำไรหลังภาษี (PAT) ไม่รวมรายการพิเศษ   

ผลประกอบการของ Grasim รายไตรมาสและรายปี สิ้นสุด 31 มีนาคม 2018 เป็นที่น่าประทับใจโดยมีการเติบโตรอบด้านทั้งกิจการเดี่ยวและระดับโดยรวม

ตลอดปีงบประมาณ 2017-18 รายได้สำหรับกิจการเดียวอยู่ที่ 157,880 ล้านรูปี ซึ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 53 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน EBITDA สำหรับกิจการเดียวเติบโตขึ้นที่ร้อยละ 35 เป็น 35,420 ล้านรูปี

สำหรับระดับโดยรวมกิจการ รายได้ตลอดปีงบประมาณ 2017-18 สูงขึ้นที่ร้อยละ 56 เป็น 561,620 ล้านรูปี ส่วน EBITDA อยู่ที่ 108,790 ล้านรูปี ซึ่งสูงขึ้นร้อยละ 31

ผลประกอบการของช่วงระยะเวลาปัจจุบันไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้าได้ เนื่องจากผลประกอบการของปีก่อนไม่รวมถึงผลประกอบการของ Aditya Birla Nuvo Limited (ABNL) เดิม ที่ควบรวมเข้ากับบริษัทแล้ว โดยมีผลตั้งแต่ 1 กรกฏาคม 2017 อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบตามเกณฑ์กับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ผลประกอบการรายไตรมาสและรายปีสิ้นสุด 31 มีนาคม 2018 ก็เป็นที่น่าประทับใจ รายได้ของกิจการเดียวสำหรับไตรมาสสูงขึ้นร้อยละ 26 (ตลอดทั้งปีสูงขึ้นร้อยละ 30) ส่วน EBITDA สูงขึ้นถึงร้อยละ 35 (ตลอดทั้งปีสูงขึ้นร้อยละ 14)

เงินปันผล

คณะกรรมการบริหารของ Grasim ได้เสนอเงินปันผลที่สูงขึ้นเป็น 6.20 รูปีต่อหุ้น ซึ่งจากเดิมคือ 5.50 รูปีต่อหุ้น (ปรับตัวเลขสำหรับหุ้นส่วนย่อย) ในปีก่อน กระแสเงินไหลออกทั้งหมดที่สืบเนื่องจากเงินปันผลจะอยู่ที่ 4,550 ล้านรูปี (รวมภาษีสำหรับการชำระเงินปันผลแล้ว)

ธุรกิจเส้นใยสังเคราะห์

รายได้สุทธิสำหรับไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2018 อยู่ที่ 22,320 ล้านรูปี สูงขึ้นร้อยละ 15 ส่วน EBITDA อยู่ที่ 4,010 ล้านรูปี ซึ่งสูงขึ้นร้อยละ 16  

สำหรับปีงบประมาณ 2018 รายได้สุทธิอยู่ที่ 83,760 ล้านรูปี สูงขึ้นร้อยละ 18 ส่วน EBITDA สูงขึ้นร้อยละ 17 อยู่ที่ 16,800 ล้านรูปี นำโดยปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นและความสามารถในการทำกำไรโดยเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นประกอบกับยอดขายภายในประเทศที่เพิ่มมากขึ้น

ธุรกิจ VSF รายงานยอดขายที่สูงสุดเป็นประวัติกาล โดยอยู่ที่ 508KT ในปีงบประมาณ 2018 นำโดยการเติบโตของตลาดภายในประเทศและความพยายามอย่างจริงจังในการพัฒนาตลาด  ส่วนแบ่งยอดขายภายในประเทศโดยรวมทั้งหมดของปีงบประมาณ 2018 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 75 โดยจากเดิมคือร้อยละ 69 ในปีงบประมาณ 2017 ส่วนแบรนด์เสื้อผ้าที่ติดป้ายการค้า LIVA มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง10 เท่าภายในช่วงระยะเวลา 3 ปี เป็น 30.25 ล้านในปีงบประมาณ 2018 ร้านค้ากว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศทำให้แบรนด์เครื่องแต่งกาย LIVA เป็นแบรนด์ที่ลูกค้าสามารถหาซื้อได้

การแก้ไขปัญหาคอขวดสำหรับกำลังการผลิตมีความก้าวหน้าเป็นอย่างดีในโรงงานหลายแห่ง โดยมีกำลังการผลิตที่ 44KTPA ในเดือนพฤษภาคม 2018 การขยายกำลังการผลิตโรงงานที่ Vilayat ที่ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้อยู่ระหว่างดำเนินการ  งานที่เกี่ยวข้องกับโครงการได้เริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่เดือนเมษายน 2018

ธุรกิจเคมีภัณฑ์

ราคาโซดาไฟยังคงทรงตัวในระหว่างไตรมาส ซึ่งมีสาเหตุหลักจากกำลังการผลิตที่เริ่มขึ้นอีกครั้งในประเทศจีน ความต้องการตามพื้นฐานเดิมโดยผู้ใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรม (ออกไซด์ของอะลูมิเนียมและสิ่งทอ)ยังคงลอยตัว

รายได้สุทธิสำหรับไตรมาสสูงขึ้นที่ร้อยละ 35 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนเป็น 14,390 ล้านรูปี ส่วน EBITDA สูงขึ้นถึงร้อยละ 95 จากปีก่อนเป็น 4,120 ล้านรูปี ซึ่งนำโดยความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มสูงขึ้นและปริมาณการขายที่เพิ่มมากขึ้น  

สำหรับปีงบฯ 2018 รายได้สุทธิปรับสูงขึ้นร้อยละ 31 เป็น 50,040 ล้านรูปี ส่วน EBITDA สูงขึ้นร้อยละ 31 เป็น 13,000 ล้านรูปี  โดยผู้บริหารยังคงเน้นให้ความสำคัญกับการเพิ่มปริมาณของผลิตภัณฑ์ประเภทอาศัยคลอรีนที่เพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้น

การขยายธุรกิจโซดาไฟให้ได้กำลังการผลิต 144 KTPA ที่ Vilayat รัฐคุชราตเริ่มดำเนินการแล้วในเดือนพฤษภาคม 2018

คณะกรรมการบริหารได้ทำการประเมินแผนสำหรับการขยายกำลังการผลิตโซดาไฟ ตลอดจน Chlorine VAPs ในโรงงานที่ตั้งอยู่ในหลาย ๆ แห่ง และให้การอนุมัติหลักการในการลงทุนมูลค่าราว 10,000 ล้านรูปีแล้ว

เครือซีเมนต์ – UltraTech

UltraTech รายงานยอดขายเพิ่มสูงขึ้นสำหรับแบบรวมกิจการ โดยสูงขึ้นที่ร้อยละ 34 (เมื่อเทียบกับปีก่อน) เป็น 92,980 ล้านรูปี ส่วน EBITDA เพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 20 เป็น 18,870 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2018

ระหว่างไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2018 และปีงบฯ 2018 ยอดขายมีการบันทึกการเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 15 และร้อยละ 20 ตามเกณฑ์การเปรียบเทียบกับเมื่อปีก่อน  ต้นทุนการผลิตยังคงเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2018 เนื่องจากราคาปิโตรเลียมโค้กและถ่านหินที่สูงขึ้น และการกีดกันการใช้ปิโตรเลียมโค้กกับ TPP 

ยอดขายแบบรวมกิจการและ EBITDA สำหรับปีงบประมาณ 2018 อยู่ที่ 309,730 ล้านรูปี และ 67,290 ล้านรูปี เปรียบเทียบกับ 250,920 ล้านรูปีและ 58,610 ล้านรูปีในปีงบประมาณ 2017

เครือธุรกิจบริการทางการเงิน – Aditya Birla Capital Limited (ABCL)

ABCL ได้รับการขึ้นทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2017 ภายหลังบรรลุเกณฑ์การเตรียมการควบรวมกิจการ  Aditya Birla Nuvo Limited ได้ควบรวมเข้ากับบริษัทและธุรกิจบริการทางการเงินที่ดำเนินการได้แยกกิจการออกเป็น ABCL ในภายหลัง

ABCL รายงานผลประกอบการทางการเงินที่ดีเยี่ยมในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2018 โดยมีรายได้แบบรวมกิจการที่ 42,030 ล้านรูปี ส่วน EBT อยู่ที่ 3,980 ล้านรูปีตามมาตรฐานการบัญชี IGAAP

ธุรกิจกู้ยืม (รวมที่อยู่อาศัย) สูงขึ้นร้อยละ 32 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนโดยอยู่ที่ 513,780 ล้านรูปี ในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2018

ธุรกิจการบริหารจัดการสินทรัพย์ (จัดอยู่ที่อันดับ 3 ของกองทุนรวมในอินเดีย) รายงานสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การจัดการเฉลี่ยสูงขึ้นร้อยละ 27 เป็น 2,677,390 ล้านรูปี โดยส่วนธุรกิจนี้มีรายงานส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมภายในประเทศที่ร้อยละ 10.75 ส่วนส่วนแบ่งตลาดทุนอยู่ที่ร้อยละ 9.2 ในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2018

ธุรกิจการประกันชีวิตมีการเติบโตที่ร้อยละ 12.4 สำหรับ Embedded Value ในอินเดียเป็น 42,810 ล้านรูปี (ณ 31 มีนาคม 2018) จาก 38,100 ล้านรูปี (ณ 31 มีนาคม 2017)  มูลค่าสุทธิของกำไรขั้นต้นธุรกิจใหม่ (VNB) เป็นไปในทิศทางบวกที่ร้อยละ 4.3 ใน ปีงบประมาณ 2018 เทียบกับติดลบที่ร้อยละ 5.5 ในปีงบประมาณ 2017 

ABCL เข้าไปมีส่วนร่วมกับ 10 ล้านชีวิตของผู้ที่ยังคงสถานะลูกค้าในปัจจุบัน 

แนวโน้ม

ธุรกิจ VSF จะยังคงมุ่งเน้นการขยายตลาดในอินเดียโดยร่วมมือกับภาคธุรกิจสิ่งทอ ซึ่งจะสามารถเสริมความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านทางแบรนด์ Liva และเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ด้วยการผสมผสาน เพิ่มพูนส่วนแบ่งการตลาดด้านใยสังเคราะห์พิเศษให้มากขึ้น อย่างไรก็ กำลังการผลิตใหม่ที่เข้ามาจากประเทศจีนในอุตสาหกรรมนี้ อาจส่งผลต่อราคา VSF ในตลาดโลกในระยะเวลาอันใกล้นี้

ความต้องการโซดาไฟในอินเดียคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้น สืบเนื่องจากการบริโภคจากภาคส่วนธุรกิจออกไซด์ของอะลูมิเนียมและสิ่งทอที่เพิ่มขึ้น

สำหรับภาคธุรกิจซีเมนต์ การที่ภาครัฐให้การสนับสนุนต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ชนบท และที่อยู่อาศัยราคาประหยัด จะเป็นกุญแจสำคัญต่อการขับเคลื่อนธุรกิจนี้ ซึ่งบริษัทอยู่ในสถานะที่เหมาะสมต่อการรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นจากทั่วประเทศได้

สำหรับภาคธุรกิจบริการด้านการเงิน ABCL มีศักยภาพที่เอื้ออำนวยต่อการให้การบริการทางการเงินได้อย่างครบวงจรเพื่อสนองตอบต่อความต้องการด้านการเงินของลูกค้าในทุกแง่มุม  ABCL มุ่งเน้นกลยุทธ์ที่ให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ผ่านแบรนด์ “Aditya Birla Capital” ทำให้มั่นใจได้ว่าบริษัทจะยังคงความแตกต่าง ก้าวไปข้างหน้าตามแนวทางเพื่อการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

แถลงการณ์เตือน

แถลงการณ์ใน “ข่าวประชาสัมพันธ์” นี้ เป็นการให้ข้อมูลด้านวัตถุประสงค์ การวางแผน การประมานการ ความคาดหวังหรือคาดการณ์ ซึ่งอาจเป็น “แถลงการณ์คาดการณ์” ที่อยู่ภายใต้กฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยหลักทรัพย์ ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างไปจากที่นำเสนอหรือที่กล่าวโดยนัย ปัจจัยสำคัญที่อาจสร้างความแตกต่างให้กับผลการดำเนินงานของบริษัท ได้แก่ สภาพอุปสงค์และอุปทานในอินเดียและตลาดโลก ราคาสินค้าสำเร็จรูป ความคล่องตัวของการจัดเก็บสินค้าและราคา วงจรความต้องการของตลาดและราคาตามตลาดหลักของบริษัท การเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับของภาครัฐ การจัดเก็บภาษี การพัฒนาด้านเศรษฐกิจในอินเดียและในประเทศต่างๆ ที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ และปัจจัยอื่นๆ อาทิ การดำเนินคดีความและข้อตกลงด้านแรงงาน บริษัทไม่รับผิดชอบต่อการแก้ไขหรือปรับปรุงแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า อันเกิดจากการพัฒนา ข้อมูลหรือเหตุการณ์ หรือสาเหตุอื่นที่เกิดขึ้นในภายหลังแต่อย่างใด