ทำไม ‘รถสู่รถ’ จึงเป็นโซลูชั่นยานยนต์ที่ยั่งยืน

17 พฤษภาคม, 2564

การริเริ่มการรีไซเคิลแบบระบบปิดที่บุกเบิกโดย Novelis ช่วยให้ Ford, Jaguar Land Rover, Nissan, Volvo, Audi และผู้ผลิตอีกมากมายสามารถผลิตยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น

Novelis makes automotive aluminium — a sustainable metal that helps automakers to reduce their carbon footprint

Novelis ทำการผลิตอะลูมิเนียมยานยนต์ ซึ่งเป็นโลหะที่ยั่งยืนที่จะช่วยให้ผู้ผลิตยานยนต์ลดการปล่อยคาร์บอนได้

อะไรที่ทำให้อะลูมิเนียมของ Novelis เป็นโลหะที่เป็นที่ต้องการมากกว่าในส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ มีการนำไปใช้โดยแบรนด์ระดับท็อปทั่วโลกและใช้กับรถรุ่นต่าง ๆ ถึง 225 รุ่นที่มีอยู่บนท้องถนนใช่ไหม คำตอบนั้นเป็นอะไรที่นอกเหนือไปกว่าอัลลอยอันเป็นนวัตกรรม การลดร่องรอยการปล่อยสารพิษจากการผลิตทั่วโลก และความสามารถในการส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีปริมาณมากได้อย่างต่อเนื่อง หากแต่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีที่ Novelis สามารถทำให้อะลูมิเนียมยานยนต์เป็นโลหะที่ยั่งยืนที่จะช่วยให้การผลิตยานยนต์และผู้บริโภคลดการปลดปล่อยคาร์บอนได้

หลายปีที่ผ่านมา Novelis ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตยานยนต์หลายรายเพื่อมอบรูปแบบของรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดในโลก หนึ่งแนวทางที่บริษัททำก็คือการมุ่งเน้นมากขึ้นที่การรีไซเคิลอะลูมิเนียมเพื่อลดการใช้งานอะลูมิเนียมปฐมภูมิที่ต้องผลิตขึ้นมาใหม่

นอกจากนี้ Novelis ยังรวมมืออย่างกระตือรือร้นกับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อขับเคลื่อนการลดการปล่อยคาร์บอน และเพิ่มโมเดลธุรกิจหมุนเวียนให้มากขึ้น บริษัทที่มีฐานอยู่ในสหรัฐฯ นี้ได้บุกเบิกระบบการรีไซเคิลแบบระบบปิด (CLR) ที่มีการนำเศษอะลูมิเนียมมาใช้ในขั้นตอนการผลิตของผู้ผลิตยานยนต์ ทำการแปลงรูปให้กลับมาเป็นโลหะเกรดเดียวกัน และนำกลับเข้าไปใช้อีกครั้งในห่วงโซ่อุปทานสำหรับลูกค้า

“การรีไซเคิลแบบระบบปิดทำให้เราสามารถนำเศษอะลูมิเนียมกลับมาจากลูกค้าของเราได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และแปลงกลับไปเป็นผลิตภัณฑ์เดิมโดยตรงอีกครั้ง” คุณ Pierre Labat รองประธานฝ่ายขายและการตลาดยานยนต์ทั่วโลกของ Novelis อธิบาย

ประโยชน์ของการผลิตแบบระบบปิดนั้นมีมากมาย กระบวนการรีไซเคิลแบบระบบปิดของ Novelis ทำการรีไซเคิลอะลูมิเนียมในปริมาณมาก ซึ่งสามารถลดพลังงานได้กว่า 90% ที่หากไม่เช่นนั้นก็จะถูกใช้ไปกับการผลิตวัตถุดิบที่บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นการลดการใช้พลังงานและการปล่อยคาร์บอนได้อย่างมหาศาล

การปิดระบบนี้ยังช่วยอนุรักษ์คุณค่าของอัลลอย ลดค่าใช้จ่ายในการรีไซเคิลและการขนส่ง ทำให้ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นน้อยที่สุด และเป็นการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคง นอกจากนี้ การรีไซเคิลแบบระบบปิดยังมอบคุณค่าให้กับลูกค้า ซึ่งโดยหลักแล้วก็คือช่วยให้ลูกค้าสามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนของตน และเพิ่มการรีไซเคิลอะลูมิเนียมหลังการใช้งาน “เราช่วยลูกค้าของเราในการจัดทำผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนตามที่ลูกค้าต้องการ” คุณ Labat กล่าว

และนี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับความร่วมมือของ Novelis กับ Jaguar Land Rover (JLR) ในปี 2013 ซึ่งเป็นการปูแนวทางให้กับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อการตอบรับต่อการริเริ่มการรีไซเคิลแบบระบบปิด

ความร่วมมือระหว่าง JLR และ Novelis

JLR ต้องการลดต้นทุนด้นพลังงานและค่าใช้จ่ายที่สูงจากการใช้อะลูมิเนียมปฐมภูมิในกระบวนการผลิต จึงได้หันมาหา Novelis ผู้ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ยืนหยัดร่วมกันมาอย่างยาวนานสำหรับโซลูชั่นวัสดุที่มีการรีไซเคิลในอัตราสูง

JLR upcycles aluminium to reduce carbon emissions in alloy production by more than a quarter

JLR ทำการอัปไซเคิลอะลูมิเนียมเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในการผลิตอัลลอยได้มากกว่าหนึ่งในสี่
(ที่มา: https://www.jaguarlandrover.com/news/2020/08/jaguar-land-rover-upcycles-aluminium-cut-carbon-emissions-quarter)

ในสภาพแวดล้อมการผลิตแบบดั้งเดิมนั้น แผ่นชิ้นส่วนยานยนต์ที่ประมาณ 30-40% จะเหลือทิ้งหลังจากที่โรงงานผลิตประทับตราชื้นส่วนยานยนต์แล้ว และเพื่ออนุรักษ์คุณค่าให้กับวัสดุส่วนเกินนี้ Novelis และ JLR จึงจำเป็นต้องทำให้ห่วงโซ่อุปทานวัสดุเป็นไปอย่างสอดคล้องกัน เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนของวงจรการผลิตยานยนต์

ในการนี้ บริษัทได้นำระบบการรีไซเคิลแบบระบบปิดมาใช้เป็นหลักในการพัฒนาอะลูมิเนียมอัลลอย โดยอัลลอยนั้นจำเป็นต้องตรงตามข้อกำหนดของเกณฑ์การมีสัดส่วนการรีไซเคิลที่สูง ในขณะที่ต้องแข็งแรง ทนทาน และสามารถจัดรูปทรงได้ตามที่กำหนดโดยวิศวกรของ JLR ด้วย

ด้วยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการนำมาใช้งาน Novelis จึงได้จัดทำอัลลอยชนิดใหม่ Novelis Advanz™ 5F-s5754 RC ซึ่งประกอบด้วยสารที่ผ่านการรีไซเคิลอย่างน้อย 75% โดยมีการเปิดตัวครั้งแรกใน Jaguar XE รุ่นใหม่ ซึ่งขณะนี้อัลลอยชนิดใหม่นี้มีอยู่ใน Jaguar Land Rover รุ่นใหม่และรุ่นที่ตามมาทุกรุ่น และด้วยอุตสาหกรรมยานยนต์มีการพัฒนาไปสู่โมเดลการรีไซเคิลแบบระบบปิดอย่างสิ้นเชิง อัลลอยจึงจะสามารถประกอบไปด้วยสารรีไซเคิลที่มาจากเศษยานยนต์ได้เต็ม 100%

กระบวนการนี้ส่งผลให้สามารถประหยัดได้มากถึงกว่า 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ แล้วจนถึงปัจจุบัน และลดการปลดปล่อยค่าคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เทียบเท่าได้มากถึง 80% กว่าการขนส่งทางถนนตามมาตรฐาน

อัลลอยถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ REALCAR (REcycled ALuminium CAR) ของ JLR ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่มีผู้มีส่วนร่วมหลายรายที่ได้รับรางวัล โดยมีการจัดตั้งขึ้นในปี 2008 เพื่อสร้างโมเดลการผลิตยานยนต์แบบระบบปิดที่ทำการรีไซเคิลเศษยานยนต์ที่สิ้นอายุการใช้งาน นับแต่ปี 2013 เป็นต้นมา JLR ได้เก็บรวบรวมและนำอะลูมิเนียมจำนวนประมาณ 300,000 เมตริกตันกลับมาใช้ใหม่

Novelis และ JLR คว้ารางวัล European Aluminium Award อันทรงเกียรติร่วมกันสำหรับนวัตกรรมอะลูมิเนียมยานยนต์และระบบการรีไซเคิลแบบระบบปิด

Novelis' new alloy - Novelis Advanz™ 5F-s5754 RC, developed as a part of its award-winning partnership with JLR, contains at least 75 per cent recycled content

อัลลอยชนิดใหม่ของ Novelis - Novelis Advanz™ 5F-s5754 RC ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับ JLR ที่ได้รับรางวัลนั้น ประกอบไปด้วยสารรีไซเคิลอย่างน้อยที่ 75%

ตามคำร่ำลือ

หลังจากความสำเร็จของโครงการระบบรีไซเคิลแบบระบบปิดของ Novelis กับ JLR ผู้ผลิตยานยนต์รายอื่นได้ให้การตอบรับต่อกระบวนการนี้ ในอเมริกาเหนือ Novelis และ Ford ได้พัฒนาระบบการรีไซเคิลแบบระบบปิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับสายการผลิตรถบรรทุกที่ใช้อะลูมิเนียมจำนวนมาก - F-150 ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของผู้ผลิตยานยนต์ ตลอดโปรแกรมนี้ Ford ได้ทำการรีไซเคิลและนำเศษอะลูมิเนียมกลับมาใช้ได้กว่า 90% ซึ่งเพียงพอต่อการผลิตตัวถังรถบรรทุกรุ่น F-150 จำนวน 30,000 คันในแต่ละเดือน

Ford recycles and reuses more than 90 per cent of scrap – enough to produce 30,000 F-150 bodies each month

Ford ได้ทำการรีไซเคิลและนำเศษอะลูมิเนียมกลับมาใช้ได้กว่า 90% ซึ่งเพียงพอต่อการผลิตตัวถังรถรุ่น F-150 จำนวน 30,000 คันในแต่ละเดือน

Audi, BMW และ Volvo ได้ทำตามโดยมีการลงนามร่วมกับ Novelis สำหรับระบบการรีไซเคิลแบบระบบปิดในยุโรป อีกยังมี Nissan ที่ให้การตอบรับต่อการรีไซเคิลแบบระบบปิดด้วยเช่นกัน และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้เปิดตัว Nissan Rogue รุ่นใหม่ปี 2021 ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่มีการจำหน่ายรอบโลกที่ดำเนินงานภายใต้ระบบนี้ โดยหลังจากมีการนำระบบมาใช้ในสหรัฐอเมริกา ทาง Nissan จะคอยติดตามระบบการรีไซเคิลแบบระบบปิดใหม่ในสหราชอาณาจักรต่อไปในปีนี้ ซึ่งจะกลายเป็นลูกค้ารายแรกของ Novelis ที่มีโปรแกรมการรีไซเคิลแบบระบบปิดในหลายภูมิภาค

ระบบของ Nissan จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้เมื่อเทียบกับการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตจากอัลลอยปฐมภูมิที่มาจากวัตถุดิบบริสุทธิ์ ระบบใหม่ได้ลดการพึ่งพาทรัพยากรเหมืองแร่และทำให้การสร้างขยะน้อยลงในโรงงาน

ด้วยเป็นผู้ทำการรีไซเคิลอะลูมิเนียมรายใหญ่ที่สุดของโลก Novelis ได้ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติที่ไม่เหมือนใครของอะลูมิเนียม เพื่อมอบโซลูชั่นที่ยั่งยืนที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นที่สนใจของลูกค้า เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของภาครัฐ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยขับเคลื่อนประสิทธิภาพทางต้นทุน และนี่คือโซลูชันที่กำชัยชนะอย่างรอบด้าน